นี่ก็เป็นวันที่สองแล้วที่ผมจะได้มาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับด้านธุรกิจ วันนี้มีเพื่อนผมคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องนี้กับผมพอคุยไปคุยมาผมก็ว่ามันน่าสนใจดีเลยคิดว่าคงดีไม่น้อยที่จะได้มาแชร์เรื่องนี้ให้หลายๆท่านที่มีธุรกิจอยู่
มาเริ่มกันเลย !!
การมีหุ้นส่วนทางธุรกิจถือเป้นข้อดีแล้วจุดได้เปรียบในการเพิ่มศักยภาพแข่งขันในระบบตลาดอีกอย่างหนึ่งซึ่งเปรียบได้ดั่งสมองที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
"หลายหัว ย่อมดีกว่าหัวเดียว"
ธุรกิจที่มีรูปแบบการดำเนินงานในลักษณะนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เมื่อผลประโยชน์ระหว่าง
ธุรกิจที่มีเจ้าของผูกขาดเพียงผู้เดียวกับธุรกิจที่มีเจ้าของเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นก็ต่างกันมากทีเดียวเลยล่ะครับและการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันมีโครงสร้างเอื้อในการดำเนินการในแบบที่ ธุรกิจที่มีเจ้าของเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นยุคนี้เลยมักไม่ค่อยเห็นธุรกิจเกิดใหม่ที่มีรากฐานมากจากเจ้าของผูกขาดเพียงผู้เดียวมากนัก
ข้อดีของการมีหุ้นส่วนธุรกิจจะมีดังต่อไปนี้
1.ได้เงินทุนเพิ่ม
เงินทุนถือเป้นปัจจัยสำคัญอีกอย่างในการที่ช่วยให้คุณขยับขยายธุรกิจของคุณ เช่นกันการมีหุ้นส่วนจะมีส่วนช่วยให้คุณเงินทุนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
และมันจะมีประโยชน์ในการขยับขยายธุรกิจของคุณไม่ว่าคุณ จะ ขยับขยายเพิ่มสาขา จัดซื้อผลิตภัณฑ์ จ้างพนักงาน เงินหมุนเวียนในบริษัท ฯลฯ
2. มีที่ปรึกษาคอยให้ความช่วยเหลือ
การมีผู้ช่วยที่ดีโดยไม่ต้องเสียค่าจ้างถือเป้นเรื่องที่ดี เพราะตลอดการดำเนินงานทางธุรกิจย่อมจะมีปัญหาเกิดขึ้นเสมอ และการที่มีผู้ช่วยที่ดีๆสักคนก้จะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการไปได้มาก ไม่ว่าปัญหาในเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง คุณก็สามารถมั่นใจได้ว่าจะผ่านปัญหานั้นไปได้โดยไม่ยาก อย่างไรแล้ว "สองหัวก็ต้องดีกว่าหัวเดียว"
3. มีเครือข่ายสังคมทางธุรกิจกว้างขวาง
"คอนเน็คชั่น"เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตต่อไปได้ การมีหุ้นส่วนทางธุรกิจก็เท่ากับคุณมีเครือข่ายที่มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งมันจะทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้อย่างรวดเร็วในลักษณะของเครื่องหมายคูณในการหาลูกค้า
4.การจัดตั้งบริษัทจะมีประโยชน์ต่อการลดรายจ่ายด้านภาษี
โดยส่วนมากการทำธุรกิจที่มีรูปแบบเป็นการร่วมหุ้นกันของคณะบุคคลมักจะถูกจดทะเบียนจัดตั้งเป็นรูปแบบบริษัทนิติบุคคลเสียเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้รูปแบบการเสียภาษีเป็นในลักษณะของบริษัทนิตบุคคลแทนซึ่งจะมีส่วนช่วยให้บริษัทเสียภาษีสูงสุดเพียงแค่ 30% เท่านั้นแทนที่จะเป็น 37% เหมือนกับบริษัททั่วไปที่ไม่ใช่นิติบุคคล ซึ่งความต่างเพียงแค่ 7% นี้ถือได้ว่ามีมูลค่าหลายสิบล้านในธุรกิจที่มีเงินทุนมหาศาล จึงเรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่ช่วยให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของภาษีไปได้ค่อนข้างมาก