วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มาเริ่มใหม่กันในปี 2011 !!

      

     ล่วงเลยมาจนถึงสิ้นปีกันแล้วหลายๆคนก็อาจจะมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีผสมปนเปกันไปในบางครั้ง ที่เรามี เรื่อง ขุ่น ข้อง หมองใจ มันก็อาจจะเป็นตัวทำให้เราหมดกำลังใจในการทำสิ่งต่างๆไป
แต่ที่จริงแล้วมันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้นเราควรจะเรียนรู้ทุกความผิดพลาดแล้วเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยน ให้ดีขึ้น จนกลายมาเป็นเราวันนี้อย่างหนึ่งต้องขอบคุณความผิดพลาดต่างๆที่เราได้เคยเจอและ ทำให้เราได้เรียนรู้ ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะเหมือน คนที่เดินอยู่กับที่ ที่จะไม่เคยพบสิ่งใหม่ๆ หรือไม่เคยจะผิดพลาดเลย เอาล่ะวันนี้ผมก็มีข้อคิดดีๆที่จะให้กำลังใจ เมื่อคุณล้มเหลวทางธุรกิจหรือสิ่งต่างๆในชีวิตมาแบ่งปัน ดังนี้




คนอื่นที่แย่กว่าเรายังมีเสมอ
     ความล้มเหลวในธุรกิจที่เจอในวันนี้อาจดูร้ายแรง และเกินกว่าจะแก้ไข จนบางครั้งคุณคิด ท้อแท้ไปกับ สิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่รู้ไหมยังมีคนอีกมากมายที่เขามีสถานการณ์ที่แย่กว่าคุณ หลายคนอาจจะยังไม่มีหลาย สิ่งหลายอย่างที่คุณมีหลายคนอาจยังไม่มีความพร้อมต่างๆ ในการที่จะทำสิ่งต่างๆอย่างคุณ เพราะฉะนั้น การที่เราได้มายืน ณ จุดนี้ถือว่าคุณนั้นโชคดีกว่า ใครหลายๆคนมาก คุณควรจะรีบคว้าโอกา่สทุกอย่างที่ มีในปัจจุบันและเดินหน้าต่อไป ดีกว่าการที่จะคิดถึงแต่สิ่งที่เราไม่มีอย่างคนอื่น




ความผิดพลาดนั่นแหละคือประสบการณ์
     ในทุกความผิดพลาดที่คุณเคยพบเจอมันคุณอาจจะมองว่า "นี่ฉันโชคร้ายถึงขนาดที่ต้องมาเจอเรื่อง อย่างนี้เชียวหรือ?" แต่คุณรู้อะไรไหม ความผิดพลาดต่างๆที่คุณได้เจอนั่นแหละ จะเป็นตัวที่สอนให้คุณ แข็งแกร่งมากขึ้น และพร้อมที่จะรับมือกับวันข้างหน้าต่อไป เพราะไม่มีใครที่จะสามารถยืนอยู่บนยอด หอคอยงาช้างได้โดยที่ไม่เคยใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตามาก่อน เรื่องเลวร้ายที่คุณเจอในวันนี้ถือเป็นสิ่งที่ ล้ำค่ามากสำหรับคุณในอนาคต เมื่อคุณมองกลับมาคุณจะขอบคุณความผิดพลาดเหล่านั้น




พรุ่งนี้ยังคงรออยู่เสมอ
     ทุกอุโมงค์ย่อมมีแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์เสมอ เช่นกันในทุกความล้มเหลวย่อมมีแสงสว่างอยู่ปลาย ทางเสมอ ในทุกครั้งที่คุณล้มเหลว อย่าปล่อยให้ตัวคุณมัวขุ่นข้องอยู่กับความผิดพลาดเหล่านั้น เพราะ โอกาสรอให้คุณเปลี่ยนแปลงเสมอ ตราบใด้ที่ดวงอาทิตย์ยังคงขึ้นในทิศเหนือ นั่นก็หมายความว่าคุณยังมี วันข้างหน้าที่สวยงามรออยู่แน่นอน




ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ
     เป็นเรื่องจริงที่ว่าท้องฟ้าที่สวยงามที่สุดจะมีให้เห้นก้ต่อเมื่อมันได้ผ่านช่วงมรสุมที่โหมกระหน่ำมาแล้ว เฉกเช่นเดียวกันในการทำธุรกิจมันคงไม่ได้เรียบง่ายเหมือนรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนทางด่วนหรือถนนที่เรียบ แต่อย่างไรก็ตามแล้วพิษมรสุมที่พัดผ่านเข้ามาในธุรกิจของเรา สุดท้ายแล้วเมื่อเราผ่านช่วงเวลานั้นไปได้ ก็รับรองได้เลยว่าคุณกำลังจะมีท้องฟ้าที่สวยงามรออยู่ข้างหน้าแน่นอน 




พักบ้างแต่อย่าหยุด
     หากคุณรู้สึกอ่อนล้ากับสภาพธุรกิจหรือชีวิตที่เป็นอยู่ขอให้คุณหยุดพักก่อน เพื่อคุณจะได้กลับมาตั้ง หลักและคิดทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น และที่สำคัญการที่คุณหยุดพักนี้ควรจะมีกำหนดไม่ใช่ปล่อย เวลาไปเรื่อยๆ จนเมื่อคุณมีแรงพร้อมที่จะกับสู่สนามรบ นั่นถือเป็น สัญญาณที่ดีที่คุณจะได้เผชิญหน้ากับ คู่แข่งอย่างนักสู้ผู้ไม่แพ้ใคร 




 เชื่อในตัวเอง เราทำได้!!
     ทุกสิ่งที่คุณเป็นอยู่ในวันนี้ ทุกสิ่งที่คุณทำในวันนี้ และทุกความผิดพลาดที่คุณยังคงเจอในวันนี้ มันไม่ได้ มีความหมายแน่คุณจะหยุดอยู่แค่นี้ เมื่อไหร่ที่คุณยังคงลุกขึ้นจากเตียงได้ คุณยังคงมีโอกาสดีๆในชีวิตเสมอ ขอเพียงคุณอย่าได้ถอดใจไปเสียก่อน และถ้าคุณคิดอะไร ขอให้ทำซะตั้งแต่วันนี้ เพราะเวลาไม่เคยจะรอ ใคร คิดให้ไกล คิดให้สูง และเริ่มตั้งแต่วันนี้ บอกกับตัวเองว่าเราทำได้ แล้วในวันหนึ่ง เราจะขอบคุณกับสิ่ง เริ่มต้นเล็กๆจากการที่คุณได้คิดในวันนี้ มีประโยคหนึ่งที่ผมชอบมาก จากโฆษณาตัวหนึ่ง คือ "ตีลูกกอล์ฟให้ถึงดวงจันทร์ ถึงพลาดก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว"


     สุดท้ายนี้ผมอยากจะเป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านและอยากให้มาเริ่มต้นกันในปี 2011 เก็บประสบการณ์ ที่เคยมีมา ความผิดพลาดทีเคยเจอ แล้วตั้งหลักกับตัวเอง คิดไว้ว่าในปี 2011 นี้อยากจะให้ตัวเองเป็นยังไง ประสบความสำเร็จมากแค่ไหน หรืออยากมีเงินมากเท่าไหร่ และ เริ่มทำมันเลย ทุกอย่างกำลังรอคุณอยู่แน่นอน

New Year!!





     ก็ใกล้เทศกาลปีใหม่เข้ามาทุกทีตามสถานที่ต่างๆก็มีการจัดตกแต่งกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านสยามซึ่ง ถือเป็นแหล่งธุรกิจที่ใหญ่อีกที่หนึ่งของเมืองไทยผมก็มีได้แวะไปแถวๆนั้นบ้างจะสังเกตได้ว่าในช่วง ค่ำๆจะมีการเปิดไฟแสงสีกันอย่างสวยงามซึ่งก็มีคนจำนวนมากที่ผ่านเก็บภาพบรรยากาศที่ 1 ปี จะได้เห็นกันที ผ่านไปแล้ว 1 ปี เป็นยังไงกันบ้างส่วนตัวผมก็ผ่านช่วงที่ดีและไม่ดีมาในปีนี้แต่ส่วนตัว รู้สึกยังใช้เวลาที่ ผ่านมาไม่คุ้มเลย ก็อยากจะให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นในปีใหม่ รวมทั้งท่านผู้อ่านก็เช่นกัน 

ถ้าสังเกตในช่วงนี้จะเห็นได้ว่าห้างสรรพสินค้า ก็ต่างจัดโปรโมชั่นกันอย่างมากมายในช่วงปีใหม่ ซึ่งเรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกของที่เป็นของขวัญปีใหม่จะได้รับ ความนิยมมากในช่วงนี้ก็มีหลายๆที่ที่บริการห่อของขวัญให้ฟรี หรือแถมของเล็กๆน้อยๆ อะไรก็ว่ากันไปช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่กำลังซื้อของผู้บริโภคจะอยู่ใน ระดับสูงเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนไม่มีใครอยากพลาดโอกาส ทองในช่วงปีนี้ไปแน่ ผมก็มีเทคนิคเล็กๆน้อยมาแนะนำครับ




ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูเหมาะเป็นของขวัญ
      แน่นอนครับในช่วงเทศกาล ทุกคนต่างหาของขวัญเพื่อจะเอาไปให้กับ เพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้อง ซึ่งของขวัญนี่ก็ถือเป็นสื่อกลางทางจิตใจที่ส่งให้ถึงผู้รับ และที่ได้รับความนิยมเป้นอย่างมากก็เพราะ สะดวกสบาย สามารถขายได้ทันที ตัวอย่างเช่น สินค้าในกลุ่มของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ 


บริการห่อของขวัญฟรี
      ถ้าเกิดการที่จะทำผลิตภัณฑ์ให้ออกมาในรูปของขวัญมันยากไปละก็ การห่อของขวัญให้ฟรีก็ถือ เป็นความคิดที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะการบริหารห่อของขวัญฟรีนี่จะเป็นหนึ่งแรงจูงใจที่จะทำให้ผู้ บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้อย่างง่ายๆเลยทีเดียว


ลดกระหน่ำ
     สิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภค ใช้ตัดสินใจในการจะเลือกซื้อสินค้าแต่ละชิ้นเป้นหลักนั่นก็คือ ราคา ใช่ครับผู้บริโภค ต่างจะมองหาการลดราคาซึ่งการลดราคาในช่วงนี้จะเป็นการสร้าง ยอดขายได้อย่างมากในรอบปีเลย ทีเดียวและยังเป็นการระบายสินค้าเพื่อเตรียม รับกับศักราชใหม่ได้อีกด้วย


แจกคูปองชิงโชค สะสมแต้ม รับของสมนาคุณ
      นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการนิยมใช้กันเพื่อกระตุ้นยอดขาย เพราะเป็นการผสมผสานของเทศ กาลกับเทคนิคในรูปแบบของ Seasonal Marketing ได้อย่างลงตัวทั้งวิธีการตลาดแบบจัดคูปองชิงโชค สะสมแต้ม และรับของสมนาคุณ ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้ถือเป็นกิจกรรมที่อยู่ในเชิงสัญลักษณ์ของการให้สิ่งตอบแทน กลับไปสู่ผู้บริโภคแทนคำขอบคุณนั่นเอง



จัดอีเว้นท์ 
     สิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นตัวดึงดูดผู้บริโภคนั่นก็คือกิจกรรมเพราะเทศกาลนี้ผู้บริโภคมักจะแสดงออกเพื่อ เป็นการเฉลิมฉลองและร่วมกันนับถอยหลังเพื่อขึ้นศักราชใหม่ งานอีเว้นท์ที่พูดถึงนี่ก็อาจจะหลายถึงการ จัดมินิคอนเสิร์ตหรือร่วมสนุกในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น  นี่ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้และสามารถสร้างสีสัน ให้กับธุรกิจของคุณไม่น้อยเลยทีเดียว


    ทั้งหมดที่ผมได้แบ่งปันไปก็หวังว่าหลายๆท่านคงอาจจะได้ประโยชนฺ์กันไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ก้ขอให้ สร้างกำไรกันได้เยอะๆ ในช่วงปีใหม่ และโชคดีมีความสุข มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นในช่วงปี 2011 ที่จะมาถึง ด้วยนะครับ

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Apple Iphone4..

สวัสดีอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน ก็มีเรื่องราวมากมายครับที่เกิดขึ้นระหว่างในช่วงที่ผมไม่ได้อัพบล็อคและในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ก็คง เป็นสัปดาห์แห่งการเฉลิมฉลองคริสมาสของใครหลายๆคนโดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่จะได้ฉลองกัน และหยุดยาวถึงปีใหม่

ในตอนนี้ก็มีสิ่งหนึ่งเข้ามาครับและผมติดมันงอมแงมมากเลยก็คือ Iphone4 ในตอนนี้ผมติด app หลายๆตัวมากเลย ทั้งวันถ้าไม่มีไรทำ นั่งเล่นทั้งวันก็ว่าได้55 หลังจากแต่ก่อนที่ผมใช้ Blackberry จนตอนนี้ใช้ Iphone ผมว่า Iphone นี่แหละเหมาะกับผมที่สุดแล้ว ที่ผมชอบมันมากกว่า BB ก็เพราะว่า มันไม่ใช่แค่นั่งแชทไปวันๆ หรือเลื่อนขึ้น-ลงดูรายชื่อคอนแทคหรือดูรูปที่เพื่อนเพิ่งอัพเดท แต่มันสามารถโหลด App มากมายซึ่งคุณก็ไม่มีทางที่จะลองเล่น App ที่มีทั้งหมดใน App Store ได้ ที่ได้ยินข่าวล่าสุดมาก็คือในตอนนี้มี App 300,000 กว่าตัวที่จะให้คุณเข้าไปดาวน์โหลดมา ใส่เครื่องคุณได้ทุกเมื่อ นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดแข็งของ Apple ที่ทาง Blackberry คงสู้ไม่ได้




มาเข้าเรื่องของวันนี้กันเลย อาจสังเกตว่าวันนี้ผมเริ่มเรื่องด้วยการหยิบยกเรื่องของ Apple Iphone ขึ้นมาพูด.. ใช่ครับ วันนี้ผมจะมาพูดเกี่ยวกับ สิ่งที่ผู้ประกอบการได้เรียนรู้จาก Iphone4






“สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” สุภาษิตนี้ใครหลายๆคนคงเคยได้ยินกันมา และแน่นอน บริษัทยักใหญ่อย่าง Apple ก็ใช่ว่าจะทำทุกอย่างเพอร์เฟคไปซะหมดหลายๆคนคงเคย ได้ยินกันมาบ้างในเรื่องที่ Iphone 4 ออกมาแล้วมีปัญหาจนทาง Apple เองต้องออกมาขอโทษ และแก้ไข ใช่ครับไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องราวพวกนี้อย่างแน่นอน สำหรับสิ่งที่คนทั่วโลกรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ แต่พอออกมากับพบข้อบกพร่องบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องสัญญาณที่มักจะหายไปเมื่อสัมผัสที่สัน ด้านล่างตัวเครื่อง แต่ถึงอย่างไร Apple ก็ตั้งรับสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว และต่อไปนี้คือบทเรียนจากการแก้ปัญหาของ Apple ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำมาปรับใช้ใน การแก้ปัญหาขององค์กรได้เช่นกัน ดังนี้ 




1.ระบุปัญหาที่แท้จริงกับลูกค้า
สิ่งที่ทางบริษัทควรทำทันทีเมื่อเกิดปัญหาคือต้องรีบแจ้งแก่ผู้บริโภค ไม่ปกปิหรือเบี่ยงเบนประเด็น เพราะเช่นนั้นยิ่งจะทำให้ความน่าเชื่อถือขององค์กรลดลง 




2.ควบคุมสถานการณ์
หลังจากที่ระบุปัญหาได้แล้ว ก็ต้องเร่งควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลายเกินกว่าจะแก้ไขได้ โดยทาง Apple นั้นได้จัดแถลงการณ์ต่อสื่อเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น  โดยมีการนำผลวิจัยที่เกิดขึ้นกับ Iphone4 และ Smart phone ยี่ห้ออื่นๆมาเปรียบเทียบให้ดู แล้วให้สื่อสักถามข้อสงสัย ซึ่งวิธีการจัดแถลงการณ์นี้ จะช่วยให้กระจายข่าวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าเป็นองค์กรเล็กๆก็ควรใช้วิธีส่งอีเมลล์ หรือ ใช้เว็บไซต์สำหรับจัดแถลงการณ์




3.เร่งแก้ไขปัญหา
ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญอีกอย่างหนึ่งเพราะตรงนี้จะเป็นส่วนที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ยกตัวอย่าง  กรณี iphone4 ที่ Apple นอกจากจะออกมาแถลงการณ์การพัฒนาซอฟท์แวร์เพื่อลด ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ทางบริษัทยังได้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคที่ไม่พอใจสามารถนำเครื่องที่ซื้อไปไม่เกิน 1 เดือน และยังไม่มีร่องรอยบุบสลายมาคืนได้ ทั้งยังคืนเงินเต็มจำนวนให้อีกด้วย หรือหากไม่ต้องการ คืนเครื่อง ทาง Apple ก็จะแถมเคสซิลิโคนให้ฟรีๆ เพื่อใช้ป้องกันไม่ให้มือของผู้ใช้ไปจับโดนจุด ที่ทำให้สัญญาณอ่อน การแก้ไขดังกล่าวทำให้มียอดผู้ใช้ที่นำ iphone4 มาคืน เพียงแค่ 1.7% ของยอดขายเท่านั้น




 4.ยอบรับความผิดพลาด
ความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่ต้องรู้จักยอมรับความผิดพลาดแล้วเร่งแก้ปัญหา ซึ่งนี่จะเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้ ผู้บริโภคยังคงเชื่อถือในแบรนด์ของเราอีกต่อไป




จากข้างต้นที่ว่ามาทั้งหมด Apple ถือว่าทำคะแนนไปได้ 3 ใน 4 สำหรับเรื่องนี้ ซึ่งก็ยังเป็นที่น่าพอใจอยู่ แต่อย่างไร การแก้ปัญหาของ Apple ก็อาจจะไม่ได้ดีไปเสียทั้งหมด แต่นี่ก็คงเป็นบทเรียนราคาแพง อีกชิ้นหนึ่งสำหรับบริษัทเลยก็ว่าได้ และผมหวังเป็นอย่างยิ่งเลยว่าผู้ประกอบการทุกท่าน ก็คงจะมองเห็นอะไรหลายๆอย่างจากเหตุกาณ์ครั้งนี้และนำไปปรับใช้สำหรับองค์กรของตนอีกเช่นกัน

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สโลแกนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!!

จะดีแค่ไหนถ้าสโลแกนของบริษัทสามารถทำให้ผู้บริโภคจำได้และติดหู นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายๆบริษัทต่างคิดสโลแกนที่สามารถจำได้ง่าย ติดหู อยู่กันตลอดเวลา  การมีสโลแกนดีๆ สักหนึ่งประโยคที่ติดหูผู้บริโภคนั้นถูกเปรียบเปรยว่ามีประโยชน์มากกว่าการมี นักการตลาดหัวกะทิอยู่ในบริษัทถึง 10 คนเลยทีเดียว   เพราะสิ่งนี้จะช่วยสร้างความมีตัวตน ทางธุรกิจให้เกิดขึ้นใน จิตใจของผู้บริโภคได้ ผมเลยอยากจะแนะนำ หลักวิธีการตั้งสโลแกนบริษัทให้ติดปากผู้บริโภค โดยมีหลักการสำคัญทั้ง 8 ข้อดังนี้



ครบถ้วน โดดเด่น ดึงดูด
หนึ่งมนต์เสน่ห์ของสโลแกนคือ  รูปประโยคจะต้องมีความโดดเด่นและมีพลังในตัวเองอย่างไม่มี ขีดจำกัดซึ่งสิ่งนี้จะช่วยสะกิด ความคิดของผู้บริโภคให้หันมาสนใจและติดหูไปได้อย่างง่ายๆ เช่น  LG : Life’s Good


บ่งบอก ตัวตนของธุรกิจ
เราไม่เพียงแต่ตั้งสโลแสนเพื่อให้ติดหูผู้บริโภคเท่านั้นแต่ยังต้องสื่อความหมายได้ตรงตัวและ บอกที่ไปที่มาอย่างครบถ้วน เพราะมันจะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่ายขึ้นถึงสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ   เช่น “ถุงเท้าคาร์สัน : ถุงเท้าที่ทุก ๆ คนใส่กัน เป็นต้น"



สั้น กระชับ
คนทั่วไปคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาจำอะไรยืดยาวเพียงเสี้ยววินาทีที่เดินผ่านป้ายโฆษณาขณะ กำลังลงจากสถานีรถไฟฟ้า เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเราสามารถมีสโลแกนที่สั้น และเข้าใจได้ง่าย นั่นจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ผู้คนจำได้ง่ายขึ้นมาก เช่น   “ฟูจิสั่งเลย อร่อยทุกอย่าง"



ความหมายมีค่ามากกว่าตัวอักษร
สโลแกนนอกจากจะบอกเล่าสิ่งที่เขาต้องการจะโฆษณาแล้ว ยังต้อง สามารถแสดงออกได้ถึง จิตวิญญาณที่สัมผัสได้ถึงพลังที่มีอยู่ หรือพูดง่ายๆก็คือต้องมีสำนวนที่คมคายและบาดลึกในจิตใจนั่นเอง สิ่งนี้จะทำให้สโลแกนอันคมคายของคุณบาดลึกเข้าไปใน หัวใจของผู้บริโภคเลยทีเดียว 55  เช่น บริษัทรถยนต์โตโยต้าที่ใช้สโลแกนหลักว่า “เราให้คุณมากกว่ารถยนต์” เป็นต้น



ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี 
ภาพลักษณ์ของธุรกิจส่วนหนึ่งก็มาจากสโลแกน เพราะสโลแกนจะทำหน้าที่เป็นเหมือน ประตูบานแรกที่ใช้เปิดรับผู้บริโภคสู่อาณาจักรธุรกิจของเราสโลแกนจึงเหมือนเป็นตัวแทนที่บอกเล่า เรื่องราวเกี่ยวกับกิจการของคุณไปโดยปริยาย  เช่น “การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า” 



เป็นทั้งเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ เนื่องจากสโลแกนทั่วๆไปนั้นมักจะถูกสร้างสรรค์ออกมาโดยมีแนวทางและรูปแบบวิธีการที่ไม่ทิ้งกันนัก ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยเพราะผู้บริโภคมักจะสับสนและแยกแยะไม่ออกว่าธุรกิจแต่ละอย่างนั้นมี ความแตกต่างกันอย่างไร การเขียนสโลแกนให้มีเอกลักษณ์พร้อมทั้งอัตลักษณ์เป็นการเฉพาะ จึงมีส่วนสำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็มในช่องว่างที่ขาดหายไปนี้ได้ อาทิ “ไทยประกันชีวิตบริษัทของคนหัวคิดทันสมัย”




ไม่บัญญัติศัพท์ใหม่
แม้สโลแกนของคุณจะเลิศเลอสักเท่าไหร่ ถ้าลูกค้าไม่เข้าใจคำศัพท์ที่คุณมาใช้ นั่นก็ไม่ได้ต่างอะไรกับสโลแกนห่วยๆเลย ในการที่จะให้คนหมู่มากเข้าใจถึงสโลแกนของเรา ต้องใช้คำที่คนทั่วไปสามารถเข้าใจ ไม่ใช่ว่าคิดแล้วเข้าใจอยู่คนเดียว มิหนำซ้ำธุรกิจของคุณ ยังอาจถูกสับเละจนไม่มีชิ้นดีจากนักภาษาศาสตร์ก็เป็นได้ในข้อหาทำความวิบัติให้เกิดขึ้นในภาษาไทย




ติดปาก
นี่ถือเป็นไม้ตายชิ้นสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจ ซึ่งก็มีผลพวงมาจาก 7 ข้อข้างต้นแล้ว ถ้าคุณสามารถทำได้ ข้อนี้ก็จะตามมา ในที่สุด  ทั้งนี้ความสมดุลและลงตัวในการใช้ภาษา มักจะเป็นแรงกระตุ้นให้สโลแกนถูกเอ่ยถึงอยู่เป็นประจำ เช่น “AIS ทุกที่ทุกเวลา” หรือ “แมคโดนัลด์ ความสุขล้นเมนู” เป้นต้น


นี่ก็เป็นอีกหนทางเล็กๆหนทางหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ ซึ่งคุฯไม่ควรจะมองข้ามเลยทีเดียว และมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย ที่จะหาสโลแกนดีๆสักอันเพื่อให้คนจำได้เมื่อพูดถึง หรืออะไรทำนองนี้ 

วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ แล้วเจอกันใหม่ ; )) 
 
 

5 นักธุรกิจแถวหน้าของโลก (ตอนที่ 2)

ขออภัยที่หายหน้าหายตาไปนานสักหน่อย
เพราะในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาไม่สบายปวดหัวนิดหน่อยเลยวันนี้จะขอมาเขียนต่อให้จบ ยังไงแล้วในช่วง 3-4 วันที่ผมไม่ได้อัพบล็อค ก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งอาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้างหรือไม่กระทบบ้างก็แล้วแต่ แต่ที่สำคัญคือ เราจะต้องรับมือกับมันให้ดีที่สุด หรือพูดอีกอย่างได้ว่ากระทบต่อธุรกิจของเราได้น้อยที่สุด


โอเคครับจากครั้งที่แล้วผมได้พูดเกี่ยวกับนักธุรกิจแถวหน้าไปแล้ว 2 ท่านวันนี้ผมก็จะขอมาเล่าต่อให้จบเลยละกัน
เอาล่ะมาเริ่มกันเลย!!






Lakshmi Mittal








ชื่อนี้หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นเคยมากนักแต่เขาคนนี้แหละครับที่ เป็นชาวเอเชียผมสีดำที่ฝรั่งหัวทองให้ความเคารพมากที่สุดคนหนึ่งในแวดวงธุรกิจทั่วโลก เพราะอะไรหรอครับ? เขานั้นได้ สานต่อการดำเนินงานธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็ก ของครอบครัวที่เริ่มแรกก่อนที่เขาจะเข้ามาบริหารงานเป็นเพียงแค่บริษัท ยักษ์ใหญ่ภายในอินเดีย หลังจากเขาได้กำหนดทิศทางใหม่ ไปทำธุรกิจกับต่างชาติมากขึ้น นั่นทำให้ธุรกิจของเขา ค่อยๆเติบโต จนตอนนี้  มีการดำเนินธุรกิจในกว่า 60 ประทศมีพนักงานมากกว่า 320,000 คน มีทรัพย์สินมากกว่า 4 หมื่นล้านเหรียญดอลลาห์สหรัฐ นอกจากนี้รัศมียังเข้าซื้อ บริษัทชั้นนำทั้งในยุโรปและอเมริกาเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในเครือบริษัท




 
Howard Hughes





นี่เป็นอีกชื่อหนึ่งที่หลายๆคนในโลกนี้รู้จัก โดยเฉพาะหนังที่ชื่อเรื่องว่า The Aviator ซึ่งมีการอ้างถึงตัวเขายิ่งทำให้เขานั้นได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ถึงในแง่คิดการทำธุรกิจ ซึ่งอาจจะต่างกับคนทั่วไปหน่อย ซึ่งสิ่งที่น่าจะนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ อันเกิดจากการศึกษาชีวิตฮิวจ์นั่นก็คือเรื่องของความพยายามทุ่มเท ในการทำธุรกิจที่ไม่ว่าจะ สนใจในเรื่องอะไรแล้วแต่ เขาจะพยายามทำงานด้วยความทุ่มเทใส่ใจในทุกรายละเอียด
จนกว่างานนั้นจะสำเร็จ แม้จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายขนาดไหนก็ตาม



Katsuaki Watanabe






เขาคนที่เป็นบุคคลที่หลายๆคนในแวดวงธุรกิจรู้จักเขาดีและต้องการที่จะร่วมงานกับเขา เขาประสบความสำเร็จอย่างมากกับบริษัทโตโยต้า เขาเติบโตจากสายงานตำแหน่งเล็กๆ ภายในบริษัทผ่านสายงานมาทุกชนิดจนขณะนี้เขายืนอยู่จุดสูงสุดของบริษัท และเปรียบเสมือน เป็นขุนพลสำคัญของบริษัท เลยทีเดียว สิ่งที่น่าสนใจของเขาคือแนวคิดของเขาซึ่งทำให้ โตโยต้าขึ้นมาเป้นอันดับหนึ่งของวงการรถยนต์ได้ แนวคิดของเขาคือ  การลดต้นทุนของบริษัท เพื่อที่จะได้ผลกำไรที่สูงขึ้นโดยที่จะต้องไม่ไปกระทบกระเทือนต่อประสิทธิภาพ และชื่อเสียงของบริษัท จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ  


ก็จบลงแล้วนะครับสำหรับ 5 บุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนมาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งสิ่งที่เราควรจะศึกษาแนวคิด วิธีการดำเนินธุรกิจของเขา
และนำมาประยุกต์ใช้ นั่นเป็นอีกวิธีที่จะทำให้ธุรกิจคุณก้าวไป ข้างหน้าได้อย่างดี

วันนี้ขอจบลงเพียงเท่านี้ครับส่วนวันต่อไปนั้นจะเป็นเรื่องอะไร โปรดติดตาม.. Byee : )) 

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

5 นักธุรกิจแถวหน้าของโลก (ตอนที่ 1)

สวัสดีอีกครั้ง..สบายดีกันไหม?? 
วันนี้คงเป็นอีกวันที่หลายๆคนกำลังรอคอย นั่นคือก็ วันหวยออก นั่นเองครับ
เป็นไงกันบ้าง สำหรับใครที่โชคดีก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ส่วนตัวผม ก็เงียบตามเคย55


เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า วันนี้ผมขอพูดเกี่ยวกับ 5 นักธุรกิจแถวหน้าของโลก
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมคิดอยากจะเป็นนักธุรกิจก็มาจากเขาเหล่านี้แหละครับ ก็อาจจะไม่ใช่ซะทุกคน
แต่มีคนหนึ่งที่ผมชอบมากเลยก็คือ Warren Buffett เพราะเขาไม่เพียงแต่เป็นนักธุรกิจแถวหน้า แต่เขายังติดอันดับ เศรษฐีโลกในอันดับต้นๆอีกด้วย
เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะขอพูดถึง Warren Buffett กับ Bill Gates ก่อนละกัน


มาเริ่มกันเลย!!

Warren Buffett



Warren Buffett.. เมื่อพูดถึงชื่อนี้ก็การันตีได้เป็นอย่างดีถึงความสำเร็จในการทำธุรกิจปัจจุบันเขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และ ซีอีโอของบริษัท เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ซึ่งสิ่งที่นักธุรกิจรุ่น GEN-Y ควรที่จะต้องศึกษาแนวทางในการดำเนินธุรกิจของเขาซึ่งเขามีคติในการทำธุรกิจที่แปลเป็นได้ว่า "ช้าๆแต่ได้พร้าเล่มงาม" นั่นหมายถึงเขาใช้ความอดทนในการทำธุรกิจทำไรอย่างพอดีไม่ละโมบเกินไป นอกจากนี้ในเรื่องของการมีวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะขาดเสียไม่ได้ควรมองหา โอกาสการลงทุนในธุรกิจที่คาดว่าจะมีโอกาสในการสร้างกำไรระยะยาวมากกว่าที่จะมองธุรกิจที่ให้กำไรมากแต่เป็นเพียงแค่ภาพมายาและมีวงจรที่สั้นมากและ ให้พยายามเดินสวนกระแสในบางครั้งถ้ามีโอกาส 


Bill Gates







ชื่อนี่คงจะเป็นที่รู้จักของหลายๆคน ถ้าคุณไม่รู้จักเขาแต่คุณก็คงจะรู้จัก บริษัท Microsoft ใช่ไหมครับ เขาก็ถือว่าเป็นเศรษฐีอันดับโลกอีกคนที่อยู่แถวหน้า แต่ก่อนที่เขาจะเป็นถึงมหาเศรษฐีได้นั้น ก็ต้องเกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงการทำงานบวกกับสติปัญญาแนวความคิดและการบริหารที่ชาญฉลาดของเขาในการดำเนินธุรกิจ กับความคิดที่ง่ายๆแต่ลึกซึ้งและได้ใจความว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนเราทุกคนมีคอมพิวเตอร์ราคาถูกใช้กัน” และนั่นจึงเป็นที่มาของการตามล่าและสร้างความฝันให้เกิดขึ้นของบิลด้วยวัยเพียงยี่สิบกว่าปีเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจลาออกจากมหาลัยและนั่นกำลังจะหมายถึงก้าวแรกที่เขากำลังจะผลันตัวไปเป็นมหาเศรษฐี หลังจากที่เขาได้ลาออกมานั้น เขาก็ดำเนินรอยตามความฝันของเขาด้วยการลงมือทำ และไม่เพียงเท่านั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและน่าเอาเป็นตัวอย่างสำหรับเขาก้คือ เขาไม่เพียงแต่เป็นมหาเศรษฐีเขายังเป็น  ผู้ให้การสนับสนุนงานทางด้านการกุศลเพื่อสังคมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกคนหนึ่งด้วย นั่นจึงเป็นสิ่งที่น่าจะเอาเป็นเยี่ยงอย่างมากที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการจะสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ 


วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวมาต่อครั้งหน้านะครับ 

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน.. 

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

มาว่ากันด้วยเรื่อง "การมีหุ้นส่วนสำหรับธุรกิจเพิ่งเกิดใหม่"

สวัสดีครับ
นี่ก็เป็นวันที่สองแล้วที่ผมจะได้มาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับด้านธุรกิจ วันนี้มีเพื่อนผมคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องนี้กับผมพอคุยไปคุยมาผมก็ว่ามันน่าสนใจดีเลยคิดว่าคงดีไม่น้อยที่จะได้มาแชร์เรื่องนี้ให้หลายๆท่านที่มีธุรกิจอยู่

มาเริ่มกันเลย !!

การมีหุ้นส่วนทางธุรกิจถือเป้นข้อดีแล้วจุดได้เปรียบในการเพิ่มศักยภาพแข่งขันในระบบตลาดอีกอย่างหนึ่งซึ่งเปรียบได้ดั่งสมองที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง




  "หลายหัว ย่อมดีกว่าหัวเดียว"
  
ธุรกิจที่มีรูปแบบการดำเนินงานในลักษณะนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เมื่อผลประโยชน์ระหว่าง
ธุรกิจที่มีเจ้าของผูกขาดเพียงผู้เดียวกับธุรกิจที่มีเจ้าของเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นก็ต่างกันมากทีเดียวเลยล่ะครับและการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันมีโครงสร้างเอื้อในการดำเนินการในแบบที่ ธุรกิจที่มีเจ้าของเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นยุคนี้เลยมักไม่ค่อยเห็นธุรกิจเกิดใหม่ที่มีรากฐานมากจากเจ้าของผูกขาดเพียงผู้เดียวมากนัก

ข้อดีของการมีหุ้นส่วนธุรกิจจะมีดังต่อไปนี้


1.ได้เงินทุนเพิ่ม
เงินทุนถือเป้นปัจจัยสำคัญอีกอย่างในการที่ช่วยให้คุณขยับขยายธุรกิจของคุณ เช่นกันการมีหุ้นส่วนจะมีส่วนช่วยให้คุณเงินทุนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
และมันจะมีประโยชน์ในการขยับขยายธุรกิจของคุณไม่ว่าคุณ จะ ขยับขยายเพิ่มสาขา  จัดซื้อผลิตภัณฑ์  จ้างพนักงาน เงินหมุนเวียนในบริษัท ฯลฯ 


2. มีที่ปรึกษาคอยให้ความช่วยเหลือ
การมีผู้ช่วยที่ดีโดยไม่ต้องเสียค่าจ้างถือเป้นเรื่องที่ดี เพราะตลอดการดำเนินงานทางธุรกิจย่อมจะมีปัญหาเกิดขึ้นเสมอ และการที่มีผู้ช่วยที่ดีๆสักคนก้จะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการไปได้มาก ไม่ว่าปัญหาในเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง คุณก็สามารถมั่นใจได้ว่าจะผ่านปัญหานั้นไปได้โดยไม่ยาก อย่างไรแล้ว "สองหัวก็ต้องดีกว่าหัวเดียว"

3. มีเครือข่ายสังคมทางธุรกิจกว้างขวาง
"คอนเน็คชั่น"เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตต่อไปได้ การมีหุ้นส่วนทางธุรกิจก็เท่ากับคุณมีเครือข่ายที่มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งมันจะทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้อย่างรวดเร็วในลักษณะของเครื่องหมายคูณในการหาลูกค้า


4.การจัดตั้งบริษัทจะมีประโยชน์ต่อการลดรายจ่ายด้านภาษี 
โดยส่วนมากการทำธุรกิจที่มีรูปแบบเป็นการร่วมหุ้นกันของคณะบุคคลมักจะถูกจดทะเบียนจัดตั้งเป็นรูปแบบบริษัทนิติบุคคลเสียเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้รูปแบบการเสียภาษีเป็นในลักษณะของบริษัทนิตบุคคลแทนซึ่งจะมีส่วนช่วยให้บริษัทเสียภาษีสูงสุดเพียงแค่ 30% เท่านั้นแทนที่จะเป็น 37% เหมือนกับบริษัททั่วไปที่ไม่ใช่นิติบุคคล ซึ่งความต่างเพียงแค่ 7% นี้ถือได้ว่ามีมูลค่าหลายสิบล้านในธุรกิจที่มีเงินทุนมหาศาล จึงเรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่ช่วยให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของภาษีไปได้ค่อนข้างมาก
 
  

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เปิดบล็อคแรก.. 5 วิธีสำคัญในการเริ่มธุรกิจอย่างยั่งยืน


วันนี้ผมขอเปิดบล็อคแรกของผม ในเรื่อง "การเริ่มต้นวางแผนทางธุรกิจ"


"อย่ากังวลว่าจินตนาการของคุณจะไกลเกินเอื้อม
เพราะธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ก็ล้วนมีที่มาจากจินตนาการทั้งสิ้น"


การวางแผนธุรกิจถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม
หรืออาจเปรียบได้เป็นดั่งพิมพ์เขียวของโปรเจคทั้งหมด ที่อาจมีเดิมพันอยู่สูงกว่าสิ่งก่อสร้างหลายเท่าตัวเลยทีเดียว



กิจกรรมทุกรูปแบบในโลกใบนี้ที่ประสบความสำเร็จล้วนมาจากการวางแผนที่ดีเยี่ยม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ "การวางแผน" ถือเป็นตัวที่มีบทบาทมากทีเดียวการวางแผนธุรกิจถือเป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกโดยเฉพาะธุรกิจที่กำลังจะเกิดใหม่

คุณ ทิม เบอร์รี่ (Tim Berry) ประธานบริษัท Palo Alto Software Inc. และเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในการวางแผนธุรกิจได้แนะนำวิธีการวางแผนที่เรียบง่ายแต่เข้าถึงแก่นแท้ของธุรกิจไว้ใน 5 ขั้นตอน
ดังมีรายละเอียดสาระน่ารู้ ดังต่อไปนี้


1. การวิเคราะห์ศักยภาพ (SWOT)
นี่ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องรีบดำเนินการเป็นอันดับแรกในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่จะลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจุดเด่น (S = Strengths) จุดด้อย (W = Weaknesses) โอกาส (O = Opportunities) และอุปสรรค (T = Threats) ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการรับทราบข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับตัวธุรกิจอย่างแท้จริง อันจะนำมากำหนดกรอบและวางแผนทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การวางแผนควรจะเป็นไปในลักษณะของการประชุมแลกเปลี่ยข้อมูล และระคมสมองเพื่อนให้ได้กรอบนโยบายและแผนการที่ดีที่สุดนั่นเอง



2.นำแผนที่ได้ไปลงลึกในรายละเอียดขั้นปฏิบัติ
เมื่อเราวิเคราะหฺแผนการทางธุรกิจได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการนำแผนที่ได้ไปลงลึกในรายละเอียดขั้นปฏิบัติ ที่จะนำไปใช้จริงเมื่อธุรกิจของคุณก้าวสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาด การแบ่งกลุ่มลูกค้า ราคา การโฆษณา กลยุทธ์ธุรกิจ บรรจุภัณฑ์ ช่องทางการจัดจำหน่าย การส่งสินค้าแบบเร่งด่วน สถานที่จำหน่าย ฯลฯ ขั้นตอนนี้จำเป็นจะต้องสอดรับเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับการวิเคราะห์ศักยภาพตามขั้นตอนแรกด้วย


3.ออกงานพบปะกับลูกค้าคู่ธุรกิจ
ธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนอย่างเช่นในอดีตที่นำสินค้าออกมาวางขายแล้วก็จบ เพราะยังมีปัจจัยหลายๆอย่างที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวข้องและมีผลกระทบ โดยเฉพาะเรื่องของเครือข่ายธุรกิจ ซึ่งธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่จะเดินไปข้างหน้าไม่ได้เลยหากขาดเครือข่ายลูกค้าและคู่ธุรกิจที่จะมารองรับการดำเนินงานในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องออกเดินสายพบปะเครือข่ายเหล่านั้นให้มากยิ่งขึ้นเพื่อผูกโยงและเชื่อมสัมพันธภาพระหว่างกัน ซึ่งการพบปะพูดคุยกันแต่ละครั้งนั้นควรแสดงออกถึงความจริงใจและพูดคุยในเรื่องที่มีจุดยืนร่วมกันเพื่อตรวจสอบดูว่าใครคือผู้ที่สามารถสนับสนุนและให้การช่วยเหลือได้อย่างแท้จริงในขั้นตอนสุดท้าย


4.เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
หลักสำคัญที่จะทำให้สินค้าหรือบริการของคุณ ทำเงินให้เป็นกอบเป็นกำ ส่วนที่สำคัญอีกส่วนคือ คุณจะต้องเข้าใจความคิด หรือความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ ขั้นตอนนี้จะลงลึกไปถึงรายละเอียดปลีกย่อย ส่วนบุคคลหรือที่เรียกอีกอย่างได้ว่าไลฟ์สไตล์ ม่ว่าจะเป็นเรื่องของลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน งานอดิเรก อาชีพ อายุ รายได้ การทำงาน โทรทัศน์รายการโปรด เว็บไซต์ที่ชอบ หนังสือที่อ่าน เพลงที่ฟัง ฯลฯซึ่งถ้าคุณยิ่งมีข้อมูลเหล่านี้มากเท่าไหร่มันจะยิ่งทำให้คุณชนะใจลุกค้าได้มากเท่านั้นและยังทำให้คุณอยู่เหนือคู่แข่งอีกด้วย



5.มองภาพรวมไปที่อนาคตที่ดีกว่า
วิสัยทัศน์คือสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนจำเป็นจะต้องมี โดยผู้ประกอบการต้องรู้ตัวเองให้ได้ว่าภายใน 3 – 4 ปีข้างหน้าธุรกิจของท่านจะเดินไปในทิศทางใด ซึ่งอนาคตของธุรกิจเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการสามารถสร้างสรรค์และกำหนดขึ้นมาเองได้ไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาแต่อย่างใดดังนั้นการมีเป้าหมายและวางแผนธุรกิจเพื่อการเติบโตในอนาคตจึงเป็นหนึ่งในโครงสร้างสำคัญของการวางแผนทางธุรกิจ


การวางแผนถือเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่ามากในการทำธุรกิจ เพราะมันอิสระทางความคิดที่ผู้ประกอบการมีติดตัวดังนั้นเมื่อมีโอกาสจงวาดฝันและวางแผนธุรกิจให้ดีที่สุด อย่าไปกังวลว่าจินตนาการของคุณจะดูเกินตัวหรือไกลเกินเอื้อมเพราะธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันก็ต่างล้วนมีที่มาจากแผนธุรกิจที่สร้างมาจากความฝันและจินตนาการด้วยกันทั้งนั้นมิใช่หรือดังนั้นการเดินตามความฝันด้วยแผนธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนสมควรที่จะต้องทำในยามที่ธุรกิจแข่งขันกันสูงอย่างเช่นในปัจจุบันนี้


สำหรับบล็อควันนี้ก็ได้จบลง ผมหวังว่าจากการที่นำแนวการวางแผนของคุณ ทิม เบอร์รี่ (Tim Berry) มาแบ่งกับก็คงจะให้อะไรกับคุณไม่มากก็น้อย หรืออาจจะทำให้คุณหันกลับไปมองธุรกิจอีกครั้ง ว่ามีอะไรที่ข้ามไปหรือปล่าว

สุดท้ายนี้ขอให้โชคดีทุกท่าน
แล้วเจอกันใหม่..

ขอกราบสวัสดีท่านผู้อ่าน

สวัสดีครับ  
ก่อนอื่นผมอยากจะเกริ่นนำก่อนว่า บล็อคที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ผมจะพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็น บนอินเทอร์เน็ต การลงทุน และอีกมากมายเลยทีเดียว นี่นับว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ผมจะได้เขียนบล็อคขึ้นมากับมือของผมเอง
หลังจากที่เก็บประสบการณ์และความรู้ไว้คนเดียวซะตั้งนาน 55 
ผมจะค่อยๆนำเรื่องมาทยอยเล่าไปนะครับ ก็อย่าเพิ่งใจร้อนกัน55
ผมรู้สึกดีใจมากที่จะได้นำประสบการณ์มาแบ่งปันกับท่านผู้อ่าน
และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย : )



ขอบคุณครับ