ความซื่อสัตย์ถือเป็นอีกองค์ประกอบหลักในการจะทำสิ่งต่างๆไม่ว่าอะไรก็ตามเรียกว่าพื้นฐานที่สำคัญเลยก็ว่า ได้เช่นเดียวกันในการประกอบธุรกิจ คุณจำเป็นที่จะต้องมีความซื่อสัตย์ต่อทั้งผู้ร่วมธุรกิจ ลูกค้า หรือ แม้ แต่ลูก จ้างของคุณ ถ้าคุณประกอบธุรกิจโดยขาดความซื่อสัตย์ผมรับรองได้เลยว่าธุรกิจคุณจะขาดความ มั่นคงและ เสถียรภาพอย่างแน่นอนในอนาคต โดยวันนี้ผมจะมาเสนอแนวทางในการนำความซื่อสัตยืมาใช้ร่วมกับการทำ ธุรกิจเพื่อหาเงินเพิ่มจากนักลงทุนมีวิธีการดังต่อไปนี้
แจ้งประมาณการทางการเงินอย่างตรงไปตรงมา
นี่เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรใช่ความซื่อสัตย์มาเป็นบรรทัดฐานเพื่อใช้ในการบริหารก็เพราะว่านักลงทุน มักจะให้ความสำคัญกับข้อมูลตรงนี้เป็นหลักในการตัดสินใจให้เงินทุนกับบริษัท นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะ ต้องให้ความโปร่งใสกับข้อมูลทั้งเป็นจริงและสามารถรวจสอบได้ โดยปราศจากการตกแต่งตัวเลข
ให้ข้อมูลที่เป็นจริงแก่พนักงาน
บุคคลที่ถือเป็นตัวขับเคลื่อนของธุรกิจเลยนั่นก็คือ "พนักงาน" ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้ประกอบการจะ ปฏิบัติต่อพนักงานก็คือการให้ข้อมูลการดำเนินงานของบริษัทพร้อมทั้งผลประกอบการในการดำเนินธุรกิจ ที่อยู๋บนพื้นฐานของความเป้นจริงมากที่สุด อย่าได้คิดที่จะแต่งเรื่องขึ้นมาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรทั้งสิ้น เพราะนั่นจะทำให้พนักงานรู้สึกเหมือนโดนหักหลังและอาจจะมีปัญหาต่อมาในภายหลัง ถ้าคิดจะให้คำมั่น สัญญาอะไรสักอย่างก็ต้องรักษาคำพูดเช่น บอกว่าจะให้โบนัส ขึ้นเงินเดือน ฯลฯ เพราะสิ่งนี้จะเป็นวิธีรักษา พนักงานให้อยู่คู่กับบริษัทได้ต่อไปในอนาคตซึ่งจะมีผลทำให้ดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนอีกเช่นกัน
ตรงไปตรงมากับลูกค้า
ถ้าคุณทำธุรกิจอยู่ แน่นอน "ลูกค้า" คือพระเจ้า เพราะแหล่งเงินที่สำคัญมาจากลูกค้า จริงอยู่ที่คุณอาจ จะสามารถแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อโกหกลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาเกินจริงหรือโฆษณาจูงใจเพื่อเป็นกากระตุ้นยอดขายอย่างมากมายในระยะแรก แต่นี่เป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน และนานๆไปลูกค้าก็จะเริ่มทยอยดีจากจากคุณไป และในที่สุดธุรกิจคุณก็ต้อง เผชิญกับหายนะ สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณพึงทำให้กับลูกค้าได้นั่นก็คือให้ความตรงไปตรงมาอย่างที่สุดกับลูกค้า ไม่ใช้การโกหก หลอกลวง เพราะนี่จะเป็นการสร้างความเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทคุณ และสิ่ง นี้และจะพัฒนาจนเป็นวงกว้างจนทำให้ธุรกิจของคุณมีความแข็งแรงในภาพลักษณ์ต่อผู้บริโภค ซึ่งแน่นอน มันย่อมเป็นสิ่งที่จะดึงดูดเงินลงทุนได้ในอนาคตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ในปัจจุบันมีการแข่งขันกันมากมายทางธุรกิจซึ่งแน่นอนย่อมมีการทำธุรกิจอย่างไม่บริสุทธิ์ร้อยเปอร์ เซ็นต์แน่ ซึ่งการทำเช่นนี้อาจจะได้มาซึ่งผลประโยชน์ในช่วงระยะแรกแต่ไม่ตลอดอย่างแน่นอนเพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้ก็คือการซื่อสัตย์ต่อทุกๆสิ่งในธุรกิจของคุณซึ่งคุณอาจจะไม่ได้กำไร อย่างมากมายในระยะแรกๆแต่นี่จะเป็นรากฐานที่สำคัญของธุรกิจคุณและเมื่อภายหลังมาคุณจะขอบคุณ กับสิ่งนี้มากๆ
ในตอนนี้ถ้าใครไม่รู้จัก facebook ถือว่าคุณเป็นคนที่ล้าหลังมากเพราะถือเป็น Social Network ที่ดังมากในปัจจุบัน และใครจะไปรู้ว่าแค่นิ้วโป้งสีฟ้าดังในภาพนี้จะครองใจคนทั้งโลกได้ซึ่งนิ้วโป้งตัวนี้แต่ก่อนเคยมี ชื่อว่า become a fan และทาง facebook ก็ได้ตัดสินใจเปลื่ยนมาเป็นชื่อ like และปุ่มปุ่มนี้แหละที่ส่งผลต่อสังคมออนไลน์อย่างมากมายหมาศาล
มีลักษณะเฉพาะเจาะจง
ปุ่ม like ที่ว่านี้จะไม่เพียงแต่อยู่ในเว็บ facebook แต่ยังสามารถนำไปไว้ไม่ว่าจะเป็น บทความ หน้าวิดีโอ เพลง รูป และอื่นๆอีกมากมาย ที่จะให้เราได้กด like ขณะเดียวกันเว็บที่ใช้ฟีเจอร์นี้ก็สามารถเก็บสถิติดังกล่าว และใช้ประโยชน์ในการสร้างข้อมูล บทความ หรือเนื้อหาต่างๆให้ถูกใจผู้ใช้มากขึ้่นได้อีกทางหนึ่ง
เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
ลองคิดเล่นๆดู ว่าถ้าบทความหรือวิดีโอของคุณมีคนกด "like" อย่างมากมายแล้วทุกครั้งที่คนเหล่านั้นกด เพื่อนๆของเขาก็จะเห็นว่าเพื่อนของตนชอบบทความหรือวิดีโอนั้นๆ ซึ่งแนวโน้มที่จะทำให้เพื่อนของคนเหล่า นั้นคลิกเข้ามาอ่านดูก็ยิ่งเยอะมากขึ้น นี่ก็ถือเป็นการเพิ่ม traffic ไปในตัว
เมื่อคุณรู้แล้วคุณจะรอช้าอยู่ทำไมเมื่อคุณมีวิธีที่จะเพิ่ม traffic ของธุรกิจคุณเองไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ช่องทาง ของโลกออนไลน์ยังมีอย่างไม่สิ้นสุด แล้วคุณจะรอช้าอยู่ทำไม!!
หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า QR CODE กันมาบ้างใช่ไหมครับ หรือถ้าสังเกตง่ายๆก็อย่างรูปด้านบนเนี่ย แหละครับ คงอาจจะคุ้นๆกันบ้างแล้วใช่ไหม วันนี้แหละครับ ผมจะมาพูดเกี่ยวกับเจ้า QR CODE ที่ว่าเนี่ยว่า มันคืออะไรและเอาไว้ใช้ทำอะไรกัน ทำไมถึงเห็นตามป้ายโฆษณาเยอะแยะไปหมด
ไอตัว QR CODE นี่ก็ถือว่ามีมาได้ซักพักแล้วเหมือนกันครับโดยเฉพาะที่ในญี่ปุ่นนี่เขามีมาก่อนบ้านเราอีก ตัว QR code (Quick Response) นี่ก็คือ โค้ด 2 มิติ ที่มือถือรุ่นใหม่ๆสามารถใช้กล้องสแกนอ่าน และดึงไม่ว่าจะ เป็นภาพ, ข้อความ, วิดีโอ หรือ ลิงก์ ออกมาจากโค้ดได้ ถือเป็นอีกทางหนึ่งในการดึงคนจากออฟไลน์ไป ออนไลน์
แล้วมันเอาไว้ทำอะไรล่ะ??
ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างเช่นถ้าคุณมีสินค้าอยู่ชิ้นหนึ่งแล้วคุณอยากจะให้ลูกค้าที่สนใจติดตามหรือหาข้อมูลของ สินค้าของคุณเพิ่มเติมคุณก็เพียง นำโค๊ตเจ้าตัวนี้ไปแปะไว้ในส่วนของสินค้าคุณและลูกค้าที่สนใจก็จะนำมือ ถือมาแสกนบาร์โค๊ตนี้ก็จะได้รับข้อมุลที่คุณทำเอาไว้ ซึ่งก็เป็นการทำตลาดที่เจ๋งไปอีกแบบ
แล้วส่วนใหญ่เขาเอาไปทำอะไรกันบ้าง??
-ใส่ไว้ในนามบัตร
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ลูกค้าหรือผู้ร่วมธุรกิจของคุณเก็บนามบัตรในกระเป่าตังค์น้อยลง เพราะแทนที่จะ ติดต่อคุณทีหนึ่งก็ต้องหยิบมาค้นชื่อและเบอร์โทร คุณก็ทำโค๊ตเจ้าตัวนี้ให้แสกนเลยและก็เก็บไว้ใน contact คราวนี้ถ้ามีใครจะติดต่อคุณก็เพียงแค่ค้นหาในโทรศัพท์และติดต่อได้เลย
- แปะไว้ในสื่อโฆษณา
นี่เป็นวิธีที่จะทำให้ธุรกิจของคุณทำตลาดได้มากขึ้นเพราะไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณาตามที่สาธารณะ หนังสือ พิมพ์ฺ โบชัวร์ ฯลฯ คุณก็นำโค๊ตนี้ไปแปะไว้ และคุณอาจจะลิงค์ไปยังหน้าที่แจกของรางวัล ชิงโชค youtube facebook twitter ฯลฯ ก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ
-ปริ๊นโชว์ไว้หน้าร้าน
จะสนุกแค่ไหนถ้าร้านของคุณมี QR CODE ให้แสกนเพื่อรับสิทธิพิเศษ ติดตามกิจกรรม หรือรับส่วนลดก็ คงเป็นเรื่องดีไม่น้อยเลยที่ลูกค้าจะยิ่งให้ความสนใจกับร้ายคุณมากยิ่งขึ้น
-สร้างกระแสอื่นๆ
แน่นอนทุกคนชอบของถูก ของฟรี หรือของลดราคากันทั้งนั้น คุณอาจจะลองเปลี่ยนจากการใช้เหรียญขูด ข้างกล่องหรือตั๋วทองในห่อมาเป็นการนำ โค๊ตซ่อนไว้ในห่อสินค้าและให้ลูกค้ามาแสกนดู ก้คงจะสนุกดีไม่ น้อยเพราะยังได้ทั้งลุ้นและอาจจะได้ทั้งสิ่งดีๆที่คุณเป็นคนสร้างเงื่อนไขไว้ก็ได้
แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่ รู้จัก QR CODE
ถ้าคุณคิดจะนำ QR CODE ไปใช้ในการตลาดของคุณก็อย่าลืมว่าไม่ใช่คนทุกคนที่จะรู้จักและใช้เจ้า่โค๊ต นี้เป็นเพราะฉะนั้นคุณควรทดลองในวงแคบๆดูก่อน เช่นใน Facebook หรือ Twitter และอย่าลืมบอกถึงวิธี การใช้ต่างๆด้วย ว่าต้องโหลดแอพในการอ่านโคีตคัวนี้จากไหน ฯลฯ
มาลองทำ QR CODE กันดู!!
Kaywa - อันนี้ใช้งานง่าย สามารถเลือกได้ว่าอยากใส่ข้อมูลประเภทไหน เช่น เบอร์โทรศัพท์ เว็บไซต์ ข้อความต่างๆ
iCandy - ตัวนี้ได้รับการแนะนำจาก Mashable และนอกจากทำโค้ดแล้ว ยังมีข้อมูล เช่น โค้ดตัวไหนถูก สแกน หรือ ดูข้อมูลเชิงวิเคราะห์ของโค้ดแต่ละตัวได้้ด้วย
QR stuff - ของที่นี่จะมีให้สั่งทำเสื้อที่มี QR code ของคุณได้ด้วย
เจ้าของธุรกิจและนักการตลาดทั้งหลาย ก็อย่าลืมไปลองเล่น QR code ดู เผื่อจะได้ไอเดียอะไรแปลกใหม่ในการทำ online marketing เพื่อสร้างกระแสให้สินค้าหรือบริการ ได้ผลอย่างไรก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ : DD
วันนี้จะมาว่ากันด้วยเรื่อง Affiliate Marketing ซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้ประกอบการมากมายที่ใช้วิธีนี้ในการ ทำธุรกิจเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ที่มากขึ้น โดยแค่ใช้ นายหน้าบนโลกออนไลน์มาเป็นผู้เสนอขายสินค้าและ บริการให้กับเรา คล้ายคลึงกับการขายของผ่านพ่อค้าคนกลางนั่นเอง ข้อดีคือ ลงทุนต่ำ และหากมีเครือ ข่ายที่ใหญ่พอก็สามารถจะจำหน่อยสินค้าได้อย่างเข้าถึงผู้บริโภคอีกด้วย โดยการทำ Affiliate Marketing มีวิธีการหลักๆ ดังนี้
เลือกสินค้า
ในการที่จะนำสินค้ามาลงขายสักชิ้นเราก็ควรจะเลือกให้ดี ไม่ใช่คิดจะเอาลงก็ลงเลย เราควรจะเลือกสินค้า ที่มีความน่าสนใจหรือ ได้รับความนิยมในช่วงนั้นๆ พร้อมลงลายระเอียดคุณสมบัติและราคาให้ละเอียด และหากสินค้าได้รับความสนใจก็จะมี Affiliate Partner มาในที่สุด
ค้นหาและสร้าง Affiliate Partner
ขั้นตอนต่อมาก็คือผู้ประกอบการจะต้องเริ่มสร้าง Affiliate Partner ของตน โดยอาจจะใช้การรับ สมัครโดยตรง หรือ จะเลือกใช้บริการของเว็บไซต์ที่เปิดให้คนเข้ามาทำ Affiliate Partnerก็ได้ แต่อาจ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายบางส่วน เช่นเว็บไซต์ ClickBank, Amazon เป็นต้น
สร้างระบบที่สมบูรณ์
เมื่อคุณได้กลุ่มเครือข่าย Affiliate Partner มาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการจัดการบริหาร ภายใน โดยคุณจะต้องเริ่มวางระบบภายในที่ใช้เป็นข้อกำหนอเพื่อคิดส่วนแบ่งของผลประโยชน์ที่จะมอบ ให้ Affiliate Partnerไม่ว่าจะเป็น affiliate program ,banners ,links , affiliate ID ฯลฯ เป็นต้น รวมไปถึงวิธีการทำตลาดที่เหมาะสมสำหรับสมาชิกแต่ละรายอีกด้วย
กำหนอข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ
การที่จะทำให้ธุรกิจชนิดนี้ประสบความสำเร็จได้ก็ต้องมาจากเงื่อนไขที่น่าสนใจ เพราะนั่นจะทำให้ Affiliate Partner กระตือรือร้นและสร้างยอดขายอย่างเป็นกอบเป็นกำ และสิ่งกระตุ้นเหล่านี้จะมาจาค่าคอม มิชชั่น โดยคุณจะต้องตั้งค่าคอมมิชชั่นที่้เหล่า Affiliate Partner ยอมรับและยากที่จะปฏิเสธได้
ริเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
ถึงแม้ การทำธุรกิจชนิดนี้ โดยผ่าน Affiliate Partner จะมีข้อดีแต่ความไม่แน่นอนก็สูงเช่นกัน เพราะ Affiliate Partner อาจจะไม่ได้รับงานจากผู้ประกอบการเพียงรายเดียว ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าหากใครที่ สามารถจะให้ค่าตอบแทนที่มากกว่าพวกเขาก็ย่อมที่จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ ดังนั้นถ้าหากคุณไม่อยาก ที่จะเหล่า Affiliate Partner ต่างถอยห่างกันไปทีละคนสองคน คุณก็ควรที่จะสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า Affiliate Partner ตั้งแต่เนิ่นๆ
นี่ก็ถือเป็นข้อดีอีกอย่างของ Affiliate Marketing คือผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายสินค้าไปได้อย่าง แน่นอน หรืออาจจะคุ้มกว่าการที่ผู้ประกอบการจะใช้วิธีการเสียเงินเพื่อการโฆษณา โดยการจ่ายค่าตอบ แทนให้กับ Affiliate Partner และยังให้มีเวลาไปทุ่มเทกับเรื่องอื่นๆอีกมากมาย
ก่อนอื่นต้องขอ HAPPY NEW YEAR อย่างเป็นทางการ ทุกๆคนอีกทีหนึ่ง หลายๆคนก็ได้ไปพักผ่อนกันมา ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง ในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งในตอนนี้ก็คงจะเริ่มทยอยกลับกัน แต่ขออวยพระปีใหม่ทุกคนก่อนเลยละกัน ปีเก่าผ่านไปแล้ว ปีใหม่กำลังผ่านเข้ามา อะที่แล้วก็แล้วกันไป มาเริ่มกันใหม่ในปีนี้ สิ่งไหนที่คิดว่าอยากได้อยากมี ในปีนี้ลองมาหาหนทางกัันดู ทุกสิ่งมันไม่อยู่ไกลมือ ของเราแน่นอน ก็ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีเงินมีทอง ร่ำรวยๆ กันท่วนหน้านะคร้าบบบบ
วันนี้นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ดู ก็เจอกับนี่ครับ Icookie หรือ ไอโฟนกินได้นั่นเอง ฮ่ะฮ่าาๆ ยัง งงๆกันอยู่ละสิ ใช่ครับ มันกินได้จริงๆเพราะมันเป็นคุ้กกี้นั่นเอง เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังครับ เรื่องของเรื่องมันเกิดขึ้นที่ กรีน กาเบิลส์ ร้านเบเกอรี่เล็กๆ แห่งหนึ่ง ณ เมืองโตกุชิมา ทางตะวันตกของญี่ปุ่น จริงๆแล้วไอคุ้กกี้ที่ว่านี่มันไม่ ได้เกิดจากความคิดของเจ้าของร้านจริงๆหรอกครับแต่วันหนึ่ง มีลูกค้ารายหนึ่งอยากจะให้ทำคุ้กกี้เป็น รูปไอโฟนเพื่อจะเป็นของขวัญให้กับเพื่อนของเขา หลังจากนั้นเขาก็ลองทำคุ้กกี้แฮนเมด ตัวที่ว่านี่ขาย และหารู้ไม่ไอ้คุ้กกี้ที่ว่า นี่มันสร้างรายได้ให้เขาเป็นกอบเป็นกำเลย (krispy kreme ที่เห็นต่อคิวกันยาวๆ นี่ตกกระป๋องไปเลยก็ว่าได้ 55) เพราะราคาของเจ้า ไอคุ้กกี้นี่อยู่ที่ 2,730 เยน หรือราว 1,000 บาท มันไม่ใช่ถูกๆเลยใช่ไหมครับ แต่นี่แหละ เหล่านักร้อง นักเขียน หรือดาราคนดังไปลิ้มลองแล้วได้ทวิต เจ้าคุ้กกี้ตัวนี้ ก็เลยยิ่งทำให้กระแสยิ่งดังมากเป็นทวีคูณ ทำให้ยอดขายพุ่งขึ้นเป็นหลายร้อยชิ้น และไม่ ใช่ว่าใครคิดอยากจะแวะไปซื้อ ก็จะได้ลิ้มลองทันที แต่ต้องโทรไปสั่งจองล่วงหน้า และได้ยินมาว่า สั่งวันนี้ก็นับวันรอไปอีก 2 เดือนได้เลย กว่าจะได้เข้าปาก
